[FIC][THE HOBBIT][FILIKILI] Touch. - [FIC][THE HOBBIT][FILIKILI] Touch. นิยาย [FIC][THE HOBBIT][FILIKILI] Touch. : Dek-D.com - Writer

    [FIC][THE HOBBIT][FILIKILI] Touch.

    ผู้เข้าชมรวม

    569

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    569

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ม.ค. 57 / 15:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    อ่านเรื่องอื่นๆของคู่นี้ได้ที่ http://yuhankung.wordpress.com


    Hobbit

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Fiction : Touch.

      Fandom : The Hobbit

      Pairing: Fili x Kili

      Category: Romantic,Childhood,Drama

      **Warning Yaoi**

       Note: รวบรวมฟิคสดในทีแอลมาลง

      ———————————————————————-

       

       

      นุ่มนิ่ม....

       

       คือความรู้สึกแรกที่ฟิลีได้สัมผัสจากน้องชาย

       

       

       เด็กน้อยวัยห้าขวบเบิกตาสีฟ้ากว้างอย่างประหลาดใจเมื่อสิ่งมีชีวิตเล็กจ้อย ที่มารดาเพิ่งบอกกับเขาว่าเป็น 'น้องชาย' ยื่นมือที่กำได้อย่างมากก็รอบนิ้วเขาออกมาแตะที่บริเวณแก้มก่อนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแบบมีความสุข

       

       

      "ท่านแม่ น้องชื่อว่าอะไร" ฟิลีเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นหวังที่จะได้รู้สรรพนามแทนตัวเพื่อใช้เรียกสิ่งมีชีวิตที่น่ารักตรงหน้า

       

      ดวงตากลมโตสดใสนั่นคือสิ่งที่ฟิลีหลงใหลมากเสียยิ่งกว่า อัญมณีใดๆ เขาชอบมันเพราะว่ามันสดใสมีชีวิตชีวาต่างจากก้อนหินเย็นชืดพวกนั้น

       

       

      "ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยจ้ะ ฟิลีอยากตั้งชื่อให้น้องไหม?" ผู้เป็นมารดาแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนลูบผมลูกชายคนโตที่กำลังทำหน้าตลกใส่ น้องชายที่เอาแต่หัวเราะไม่หยุดอย่างชอบใจเบาๆ

       

      "อยากสิ ข้าอยากตั้งชื่อให้เขา" เด็กชายพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นก่อนส่งยิ้มให้กับ เด็กน้อยไรเดียงสาบนเตียง

       

      "จากนี้ไปเจ้าคือคิลี ชอบไหม ชื่อคล้ายๆกับข้าไง พวกเราจะเป็นพี่น้องที่อยู่ด้วยกันไปตลอดดีรึเปล่า?" เสียงใสกล่าวอย่างร่าเริงก่อนจะเกี่ยวก้อยสัญญาอย่างเอาแต่ใจ

       

       

       

       

       

      คิลีเป็นน้องของเขาก็ต้องอยู่กับเขาตลอดไปสิ...ฟิลีคิดในใจ

       

       

       

       

       

       

       

      สัมผัสที่สองที่คิลีให้เขาคือความเจ็บ

       

      ใช่เลย มันเจ็บไม่ใช่เล่นเมื่อมีใครซักคนกัดนิ้วคุณเมื่อคุณเผลอ

      แต่ถึงจะเจ็บฟิลีก็ไม่เคยโกรธ

       

      "โอ๊ย" เสียงร้องสะดุ้งดูจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในบ้านดูริน เมื่อสมาชิกคนสุดท้องกำลังอยู่ในวัยที่ฟันเพิ่งขึ้นและเขาก็รู้สึกคันปากอยากจะกัดอะไรซักอย่าง อะไรซักอย่างที่เจ้าหนูน้อยคิลีชอบก็ดันเป็นนิ้วของพี่ชายเอาเสียด้วย

      เด็กน้อยชอบที่จะแอบกัดนิ้วมือ ของพี่ชายไม่ให้ทันตั้งตัวแล้วปล่อยออกยิ้มร่าทำหน้าทะเล้นใส่จนคนที่ควรโกรธ จนแล้วจนรอดก็โกรธไม่ลงซักที แถมไม่ว่าห้ามเท่าไหร่ คนเป็นพี่ชายก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมห่างจากน้องเลย

       

       

      "คิลี ฟังข้านะ มือข้าไม่ใช่ของกิน มันกินไม่ได้นะรู้มั๊ย" คนเป็นพี่พยามสอนน้องอย่างจริงจัง เขาค่อยๆพูดช้าๆพร้อมทำท่าทางประกอบเช่นยกนิ้วขึ้นมาแล้วเอาเข้าปากทำหน้าเหยเก ก่อนจะวิ่งไปในครัวหยิบขนมปังมากินโชว์

       

      "อืมอร่อย" ฟิลียิ้มกว้างทำท่ามีความสุข "นี่นิ้วข้า กินไม่ได้ ส่วนนี่ขนมปังเอาไว้กิน" นิ้มป้อมค่อยๆฉีกขนมปังเป็นก้อนเล็กๆแล้วป้อน

       

      "อาอ่อย" เสียงอ้อแอ้ของน้องชายที่พูดตามเขาขณะที่เคี้ยวขนมปังในปากหยับๆ หนูน้อยจ้อมองพี่ชายด้วยตาใสแจ๋วเพื่อลุ้นว่าอีกฝ่ายจะเล่นอะไรให้ดูอีก

       

      "ท่านแม่ คิลีพูดกับข้า น้องพูดกับข้าด้วย!!" ฟิลีร้องลั่นก่อนจะอุ้มน้องวิ่งไปหามารดาอย่างตื่นเต้น

       

       

       ....เยี่ยมไปเลย ในที่สุดเจ้าก็พูดได้แล้ว....ข้าจะสอนเจ้าให้เรียกชื่อข้านะ คิลี....ฟิลีคิด

       

       

       

       

       

       

       สัมผัสที่สามคือความอบอุ่น

      ฟิลีไม่เคยลืมเลยว่าอ้อมกอดของพวกเขาสองคนมันอบอุ่นแค่ไหน

      ในชีวิตนึงใช่ว่าความสุขจะอยู่กับเราตลอดไป ในที่สุดท่านแม่ก็จากไป ท่านลุงธอรินอยู่กับพวกเราก็จริงแต่บางอย่างผู้ชายก็ไม่ได้มีความอ่อนโยนเหมือนกับผู้หญิง

       

      ท่านลุงไม่เข้าใจว่าเด็กเล็กๆก็ต้องการอ้อมกอดที่อบอุ่น

       

       

       

      "ฟิลี ปี้หลับแย้วรึยาง" เสียงใสลุกลี้ลุกลนสะกิดเรียกพี่ชายกลางดึก แพขนตาหนาที่ปิดปรืออย่างง่วงงุนหลักผ่านการฝึกหนักพยามเปิดตอบรับผู้เป็นน้องแม้จะอยู่ในสภาพที่เปิดออกได้เพียงครึ่ง

       

      "นอนไม่หลับงั้นเหรอคิลี" ฟิลีกล่าวเบาๆก่อนฉุดแขนน้องชายให้มานอนข้างๆตน

       

      "ฝันร้าย?" พี่ชายเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อรับรู้ได้ถึงคราบน้ำตาบนแก้มใสเนียน นิ้วสากจากการฝึกอาวุธค่อยๆเช็ดมันออกอย่างอ่อนโยนที่สุด

       

      "ข้าไม่ใจ้ฝันย้าย...ข้าฝันถึงท่านแม่" ฟิลีไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีกเพราะเขาเองก็มักจะหลับฝันแบบเดียวกัน ท่านแม่ไม่ใช่ฝันร้าย แต่เพราะมันเป็นความสุขที่จากไปแล้วต่างหากที่ทำให้ต้องเสียน้ำตา

       

      "เจ้ายังมีข้านะคิลี ข้าจะไม่มีวันแยกจากเจ้า"

       

      "แย้วถ้าข้าเป็นแบบท่านแม่ล่ะ" ริมฝีบางเริ่มจะเบะแต่กลับต้องยิ้มออกมาเมื่อฟังคำพูดของพี่ชาย

       

       "ข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า ข้าสัญญา" เด็กน้อยยิ้มออกมาอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของพี่ชาย

       

      แม้แต่โลกหลังความตายพี่ก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง...ฟิลีคิด

       

       

       

       

      สัมผัสสุดท้ายคือความเย็นเฉียบ

       

       

      สงครามสงบลงแล้ว รอบข้างของพวกเขาเต็มไปด้วยซากศพมากมาย ร่างกายของคิลีที่อยู่บนหลังเย็นเฉียบมาเสียเนิ่นนานแล้วแต่ฟิลีก็ยังคงแบบศพของน้องชายเอาไว้อย่างนั้น

      เขาสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ยอมแยกจากกันอีกและฟิลีเป็นคนรักษาสัญญาเสมอ และ...นี่คือสัญญาชั่วชีวิตของเขา

       

      "ท่านลุง ท่านไม่ได้ติดค้างอะไรใครอีก" ฟิลีกล่าวเสียงแผ่วเบาให้กับราชาแห่งขุนเขาผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและคงจะลาโลกนี้ไปในไม่ช้า

       

      "ท่านคือคนที่ทำให้พวกเราคนแคระได้มีบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง..อาเคนสโตนเป็นหินต้องสาป ไม่ว่าใครก็อาจเสียความเป็นตัวของตัวเองได้ทั้งนั้น แม้แต่ฟิลีกับคิลีท่านก็ไม่ได้ผิดต่อพวกเขาเลย ..ธอริน" ฟิลีเรียกนามของผู้เป็นลุงอีกครั้งเพื่อยืนยันถึงสิ่งที่ตัวเองพูด

       

      ทว่ามันกลับเรียกเสียงหัวเราะแผ่วเบาจากร่างตรงหน้าแทน "ที่ข้าขอให้เจ้ามาพบหน้าก่อนตายก็เพราะมีเรื่องจะขอโทษแล้วก็อย่างทำหน้าที่ลุงที่ดีซักครั้ง แต่จนแล้วจนรอดข้าก็ไม่ได้ทำอะไรที่สมกับเป็นลุงที่ดีเลยสินะ" ธอรินเอ่ยอย่างขบขันเจือไปกับเสียงหัวเราะ "แต่เจ้าก็สมกับเป็นฟิลีจริงๆ ข้าภูมิใจเหลือเกินที่มีหลานเช่นพวกเจ้าสองคน"

       

       

      ....เสียงหัวเราะขาดหาย รอยยิ้มบนใบหน้าค้างแข็ง...

      และมหาราชแห่งคนแคระก็ได้ลาโลกไปด้วยสภาพนี้

       

       

       

      แกนดาล์ฟเดินเข้ามาหาฟิลีอย่างเบื่องช้าด้วยสีหน้าเศร้าใจแต่ชายหนุ่มกลับส่งยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนแสงตะวันในยามเช้ากลับไป

      นั่นเพราะแกนดาล์ฟรู้ว่าเขาตั้งใจจะทำอะไรและโทษตัวเองที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

       

      อีกไม่นานฟิลีเองก็จะต้องตาย แผลที่ท้องน้อยของคนแคระหนุ่มหมดทางเยียวยาเสียเนิ่นนานแล้ว

       

      ฟิลีกล่าวฝากฝังเรื่องพิธีศพทิ้งเอาไว้ก่อนจะแบกน้องชายเดินสู่ส่วนลึกของหุบเขา

       

      หลายคนพยามเรียกรั้งแต่แกนดาล์ฟก็ปรามพวกเขาเอาไว้ก่อนอธิบายเหตุผล

       

      สิ่งที่ฟิลีคงเลือกที่จะทำมันเองหากเวลาไม่เหลือน้อยเต็มทีเช่นนี้

       

       

       

       

       

      ........คิลี....ข้ากำลังจะไปหาเจ้าแล้ว...ตามสัญญา........ ฟิลีคิด

       

      THE END

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×